neo.media

Administrator

Block "nguyen-tac-xuat-ban-noi-dung" not found

BÀI VIẾT CỦA TÁC GIẢ

สาเหตุ วิธีการป้องกัน และ รักษาไตวายเฉียบพลัน

ไตวายเฉียบพลันคือภาวะที่ไตสูญเสียการทำงานอย่างกะทันหัน ส่งผลกระทบต่อไตทั้งสองข้าง ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ ผู้ป่วยไตวายเฉียบพลันมักจะมีอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะน้อย ปัสสาวะไม่ออก ค่าของเสียในเลือดสูงขึ้น ได้แก่ ure และ creatinine ร่วมกับความไม่สมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย และความเป็นกรดด่างในเลือดผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไตวายเฉียบพลันอาจนำไปสู่ผลกระทบร้ายแรงและอาจถึงแก่ชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม หากได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที การทำงานของไตอาจกลับมาเป็นปกติหรือเกือบเป็นปกติได้ 1. สาเหตุของไตวายเฉียบพลัน ไตวายเฉียบพลันมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย โดยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ ดังนี้ กลุ่มที่ทำให้เลือดไปเลี้ยงไตน้อยลง: เป็นสาเหตุที่ทำให้ความดันโลหิตที่ไตกรองของเสียลดลง ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลันที่เกิดจากการที่เลือดมาเลี้ยงไตน้อยลง สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือภาวะช็อก ได้แก่ ช็อกจากการบาดเจ็บ ติดเชื้อในกระแสเลือด ช็อกจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน หรือช็อกจากภาวะโลหิตจางแบบเฉียบพลันจากโรคต่างๆ กลุ่มที่ทำให้เกิดความเสียหายที่ตัวไต: เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างของไตโดยตรง ซึ่งอาจรวมถึงโรคไตอักเสบเฉียบพลัน ท่อไตอักเสบเฉียบพลัน เนื้อไตอักเสบเฉียบพลัน และโรคที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือดที่ไต กลุ่มสาเหตุอื่นๆ: นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน ได้แก่ การอุดตันของทางเดินปัสสาวะทั้งภายในและภายนอก กระเพาะปัสสาวะเป็นอัมพาตจากระบบประสาทถูกทำลาย การผูกท่อไตผิดพลาดระหว่างผ่าตัดช่องท้อง หรือไตวายเฉียบพลันหลังผ่าตัดไตออกข้างหนึ่ง การทำความเข้าใจและระบุสาเหตุที่แท้จริงของไตวายเฉียบพลันมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม...

neo.media

ผู้ป่วยโรคไตควรดื่มเบียร์หรือไม่ คำตอบคือที่นี่!

การเลือกรับประทานอาหารอย่างเหมาะสมมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ผู้ป่วยโรคไตมีอาการดีขึ้น หลายคนสงสัยว่าผู้ป่วยโรคไตสามารถดื่มเบียร์ได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ รวมไปถึงข้อควรระวังในการเลือกรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต 1. ผู้ป่วยโรคไตสามารถดื่มเบียร์ได้หรือไม่? เมื่อไตทำงานลดลง จะไม่สามารถกรองของเสียและสารพิษออกจากร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยโรคไตควรดื่มเบียร์หรือไม่? การดื่มเบียร์หรือแอลกอฮอล์ทุกชนิดจะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระให้กับไตที่อ่อนแอและก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ตามมาได้ เบียร์มีเอทานอล: เป็นสารพิษต่อไต หากดื่มในปริมาณมาก แคลอรี่สูง: เบียร์มีแคลอรี่สูง อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นและระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากผู้ป่วยโรคไตมีภาวะเบาหวานร่วมด้วย ทำให้ร่างกายขาดน้ำ: เบียร์มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ ส่งผลให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและไตทำงานหนักขึ้น ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเหนื่อยง่าย และส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงระบบทางเดินหายใจต้องทำงานหนักขึ้น มีโปรตีนสูง: เบียร์มีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นภาระต่อไต ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น อาจทำให้อาการของโรคแย่ลงได้ การดื่มเบียร์ในปริมาณมากอาจส่งผลต่อความดันโลหิต ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพไต ดังนั้น หากคุณป่วยเป็นโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเบียร์และ จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด นอกจากนี้ ควรเลือกรับประทานอาหารและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม เพื่อดูแลสุขภาพไตให้แข็งแรง 2. ผู้ป่วยโรคไตควรเลือกรับประทานอาหารอย่างไร? ผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องเป็นพิเศษ เพื่อลดผลกระทบต่อการทำงานของไต การเลือกรับประทานอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการในขณะที่ควบคุมปริมาณสารอาหารบางชนิดที่จะเป็นภาระต่อไต ถือเป็นสิ่งสำคัญ ข้อแนะนำในการเลือกรับประทานอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไต มีดังนี้ ควบคุมปริมาณโปรตีน: โรคไตทำให้ร่างกายไม่สามารถกรองและขับของเสีย เช่น...

neo.media

สรุปวิธีรักษาไตวายที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน

ไตวายเป็นโรคที่มีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นทุกปี และอาจแย่ลงอย่างรวดเร็วหากไม่รักษาถูกวิธี ดังนั้นการเรียนรู้และใช้วิธีรักษาไตวายจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของผู้ป่วยเสมอ 1. รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเพื่อช่วยรักษาภาวะไตวาย รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงภาวะไตวาย ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำเฉพาะเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรักษาสุขภาพและชะลอความเสียหายของไต: รับประทานโปรตีนในปริมาณและประเภทที่เหมาะสม: ผู้ป่วยที่ยังไม่ต้องฟอกไตควรบริโภคโปรตีน 0.6 ถึง 0.8 กรัม/น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อวัน ควรเลือกโปรตีนชนิดดี เช่น เนื้อไม่ติดมัน ปลา หรือสัตว์ปีกที่ไม่มีหนัง เพื่อลดการลุกลามของโรค จำกัดไขมันอิ่มตัวและหลีกเลี่ยงไขมันทรานส์: จำกัดไขมันอิ่มตัวให้น้อยกว่า 10% ของแคลอรี่ทั้งหมดในแต่ละวัน แทนที่อาหารที่มีไขมันอิ่มตัว เช่น เนย น้ำมันหมู น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ด้วยไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ ซึ่งพบในปลาที่มีไขมัน น้ำมันมะกอก วอลนัท และน้ำมันพืชอื่นๆ อีกหลายชนิด เลือกอาหารและเครื่องดื่มที่มีฟอสฟอรัสต่ำ: ฟอสฟอรัสในเลือดมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการคันผิวหนังและปวดกระดูกและข้อได้ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น น้ำอัดลมสีเข้ม เครื่องในสัตว์ อาหารทะเล และเสริมผักและผลไม้สดให้มากขึ้น ลดการบริโภคโซเดียม: โซเดียมและของเหลวส่วนเกินจะสะสมในร่างกายของผู้ที่เป็นโรคไต ดังนั้นจึงแนะนำให้บริโภคโซเดียมน้อยกว่า 2...

neo.media

วิธีรักษาไตวายที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพที่คุณไม่ควรละเลย

ไตวายมีหลายระดับ และวิธีการรักษาจะถูกกำหนดขึ้นอยู่กับระยะของโรค หากพบโรคในระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยสามารถใช้การรักษาไตวายที่บ้านได้อย่างแน่นอน วิธีการรักษาไตวายที่บ้านใดได้ผลดี และวิธีทำเป็นอย่างไร มาเรียนรู้รายละเอียดเพิ่มเติมในบทความด้านล่างนี้กัน 1. การปรับเปลี่ยนโภชนาการและไลฟ์สไตล์เพื่อปรับปรุงอาการไตวาย ผู้ป่วยไตวายระยะที่ 1 และ 2 มักได้รับคำแนะนำให้นำมาตรการแก้ไขที่บ้านไปใช้เพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามรุนแรงขึ้นและปรับปรุงการทำงานของไต โดยเฉพาะดังนี้ 1.1 ควรจำกัด ผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องมีโภชนาการที่เหมาะสม ควบคุมปริมาณโซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และโปรตีนที่เข้าสู่ร่างกาย จำกัดโพแทสเซียม: เมื่อการทำงานของไตเสื่อมลง ผู้ป่วยจำเป็นต้องควบคุมปริมาณโพแทสเซียมเพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมสารนี้ โพแทสเซียมช่วยรักษาการทำงานของร่างกาย รวมถึงควบคุมการเต้นของหัวใจ เมื่อโพแทสเซียมสะสมมากเกินไป การทำงานของหัวใจจะได้รับผลกระทบ อาหารบางชนิดที่มีโพแทสเซียมสูงจำเป็นต้องจำกัด ได้แก่ ส้มโอ กล้วย มันฝรั่ง โยเกิร์ต … ควบคุมปริมาณฟอสฟอรัส: เมื่อไตทำงานบกพร่อง จะมีการสะสมของฟอสฟอรัสในเลือด หากระดับฟอสฟอรัสสูงอาจทำให้กระดูกเปราะ ผิวหนังคัน ปวดข้อ อาหารที่มีฟอสฟอรัสสูงที่ควรเลี่ยง เช่น ข้าวโพดคั่ว ขนมหวาน นม … ควบคุมปริมาณโซเดียม: ไตทำหน้าที่ควบคุมปริมาณโซเดียมในร่างกาย...

neo.media
0931604023